ITALIAdaSola ep2 – ชีวิต อิตาลีใต้
กลับมาอีกรอบตามที่บอกว่า พาร์ทนี้จะเกี่ยวกับชีวิตของชาว อิตาลีใต้ พาร์ทนี้เราจะไม่ได้เล่าเรียงตามเหตุการณ์มาก เพราะคิดว่าน่าจะทำให้งงว่า อะไรยังไง เพราะเอาเข้าจริงๆ บางวันเราก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากออกไปซื้อของ กับไปกินข้าวบ้านคนโน้น บ้านคนนี้ แล้วก็นอน เลยคิดว่าเราสรุปเป็นเรื่องๆ ไปน่าจะเข้าใจกันได้ง่ายกว่า
อ่านย้อนบทความก่อนหน้าได้ที่นี่
- ITALIAdaSola – ep.0 ก่อน ออก ตัว – ความคิด การตัดสินใจ และการเตรียมตัวกับทริปแบบพึ่งตัวเองครั้งแรก
- ITALIAdaSola – ep.1 บิน คนเดียว ครั้งแรก – การเดินทางแบบผู้หญิงบินเดี่ยวสู่ประเทศอิตาลีที่อยากมามานาน
เราจะแทรกภาษาอิตาลีไปให้นิดๆ หน่อยๆ นะคะ เผื่อจะมีคนสนใจ
Pasqua – เทศกาล Easter
วัน Easter ภาษาอิตาลีเรียกว่า Pasqua (ปาสควา) ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 5 เมษายน หรือวันที่เราไปถึงอิตาลีพอดีค่ะ ช่วงนี้จะเป็นช่วงหยุดยาวช่วงนึงของฝรั่งเค้า ตามหลักก็เหมือนบ้านเราคือ ใครอยู่ต่างแดนก็จะกลับบ้านเลยเป็นช่วงเวลากินเลี้ยง สังสรรค์ เฮฮาปาร์ตี้ กับญาติมิตร และเพื่อนฝูง ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่จะเน้นเรื่อง “กิน” เป็นพิเศษ
ขนมที่ทานกันในช่วงเวลานี้ และมักซื้อเป็นของฝากลูกฝากหลานกันก็คือ ช็อคโกแลตไข่อีสเตอร์, ขนมหวานเคลือบน้ำตาลสีพาสเทล และพวกขนมหวานเคลือบน้ำตาลเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ซึ่งแบบพื้นเมืองของ Sicily ชื่อว่า Agnello Pasquale เป็นขนมหวานรูปแกะ คือหวานมากกกกกกกก เหมาะกับซื้อมาประดับบ้าน เพราะแกะน่ารักเกินไป (แล้วแต่ฝีมือแต่ละร้านด้วย) นอกจากนี้ก็จะมีเค้กเรียกว่า Colomba แบบไส้หวาน มีทั้งไส้ช็อคโกแลต ไส้ครีมถั่วพิชตาชิโอ้ (ทราบแค่ 2 รส เพราะได้กินแค่นี้ค่ะ)
สำหรับในเมือง Caltanissetta (คาล ตา นิส เซ็ท ทะ) สัปดาห์ก่อนอีสเตอร์ เค้าจะเรียกว่า Settimana Santa (ดูรายละเอียดที่นี่) เค้าจะมีการแห่ขบวนรถที่มีรูปแสดงอิริยาบทต่างๆ ของพระเยซูก่อนที่จะโดนแขวนไม้กางเขน ซึ่งของเมืองเราถือว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงใน Sicily ค่ะ มีการจัดงานในเมืองตลอด จนถึงวันอีสเตอร์ ซึ่งเราอดดูเพราะมีถึงวันอีสเตอร์พอดี (แต่ก็เคยดูแล้วแหละ) แต่เรายังสามารถไปดูรถแห่ได้อยู่ ซึ่งวันที่เรากลับมา Patrizia ก็พาเราไปเยี่ยมชม Piazza หนึ่งเดียวของเมือง และได้ดูรถในขบวนพวกนี้ด้วย หลังจากดูขบวนแห่เสร็จเราก็เดินชม Piazza อีกเล็กน้อยเค้าทำถนนใหม่ แล้วก็ปิดไม่ให้รถวิ่งผ่านแล้วแต่อย่างอื่นยังเหมือนๆ เดิมค่ะ
ขอออกตัวเล็กน้อยว่าเราเป็นคนพุทธค่ะ คือเราไม่ค่อยมีความรู้ด้านศาสนาคริสต์ด้วย เราพยายามอธิบายเท่าที่เราถามเพื่อนมา ถ้าเราอธิบายอะไรผิดไปต้องขออภัยด้วย คือเราชอบและชื่นชมศิลปะตามโบสถ์มากๆ ทั้งรูปแกะสลัก ภาพวาด สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ ดังนั้นเราก็จะมองในแนวของศิลปะมากกว่าด้านความสำคัญทางศาสนา คล้ายๆ กับที่ฝรั่งมองพระพุทธรูปบ้านเราเป็นศิลปะที่สวยงามน่ะแหละค่ะ
La Cucina Italiana – อาหารที่มาอิตาลีแล้วต้องไม่พลาด
เป็นอาหารที่หากินได้ทั่วไปในอิตาลี แต่ต้องไม่พลาดที่จะลอง
Un Caffe – กาแฟเอสเพรสโซ่
กาแฟอิตาลีหอมมาก ไม่มีรสเปรี้ยว ส่วนตัวเราชอบมากค่ะ เราไม่ชอบกาแฟเปรี้ยว สั่งทานในบาร์ราคาประมาณ 1 euro แล้วแต่สถานที่ด้วยค่ะ กาแฟเป็นอาหารเช้าหลักของคนอิตาลีเลย
La Pizza – พิซซ่าอิตาลี
พิซซ่าอิตาลีเราแนะนำให้ลองเข้าร้าน Pizzeria เลย อย่าไปสั่งกินแบบหั่นชิ้นแล้วตามบาร์ เพราะรสชาติมันแตกต่างกันมากๆ คนอิตาลีนิยมสั่งทานกันคนละถาดค่ะ (ย้ำค่ะ คนละถาด) ซึ่งปกติคนไทยกินกันไม่หมดแน่ๆ ก็หารเอาก็ได้ จะมีบางหน้าที่เป็นรวมแฮมหลายๆ ชนิดเอาไว้ ก็คุ้มดี ตกราคาราวๆ 5-10 euro แล้วแต่หน้าพิซซ่า รับรองว่าพิซซ่าอิตาลีมันอร่อยเด็ดจริงๆ
La Pasta – พาสต้าอิตาลี
อาหารสากลทั่วโลก ที่มีต้นกำเนิดจากอิตาลีอีกอย่างคือพาสต้าค่ะ แต่ละที่จะมีพาสต้าเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นกันไป ถ้าสนใจก็ลองศึกษาข้อมูลแล้วหาทานกันดู ส่วนตัวเราชอบ พาสต้าซอสหมึกดำ ( Spaghetti al nero di seppia ) ชอบมากๆ เมืองไทยเจอแต่เส้นสีดำ แต่มันไม่เหมือนกันเลย
Il Pane – ขนมปัง
นอกจากเส้นพาสต้าแล้ว ขนมปังแต่ละท้องที่ก็ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวเราว่าขนมปังทางใต้อร่อยกว่าทางเหนือมากค่ะ คือตอนไปทางอิตาลีเหนือ ไปกินอาหารในร้านอาหารคืออาหารอร่อยมาก แต่ขนมปังไม่ได้เรื่องเลย คิดถึงขนมปังทางใต้มาก แนะนำให้ลองสั่ง Panino – ปานิโน่ หรือ แซนวิชกินดูค่ะ (เหลือไส้แฮม ชีส และอื่นๆ แล้วแต่ชอบ) ทางเหนือขนมปังเค้าจะจืดๆ ไม่มีรสชาติ แถมแข็งอีกต่างหาก แต่ทางใต้จะใส่เกลือ เนย(บางชนิด) ทำให้ขนมปังนุ่มน่าทานกว่ามากๆ
Prosciutto e Melone – เมนูแฮมและเมลอน
เป็นเมนูที่เราชอบมากค่ะ เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทานแล้วเข้ากันได้ และเข้ากันได้ดีมากด้วย จริงๆ ร้านในไทยก็มีค่ะ สามารถสั่งได้ เราก็ติดใจจากการกินในไทยก่อน รอบนี้ไปเลยจัดไปครั้งนึง ฟินมาก

เมนูนี้ชอบมากค่ะ
La Cucina Siciliana – อาหารชาวซิชิลี
ว่ากันด้วยอาหารการกินค่ะ อาหารในเกาะซิชิลี มีหลายอย่างที่ขึ้นชื่อ และหากินที่ได้เฉพาะในเกาะนี้เท่านั้น ถ้าใครมาก็ต้องลองดูค่ะ
Arancina/Arancino – อารันชีน่า/อารันชีโน่
เป็นข้าวปั้นยัดไส้แล้วเอาไ
ทางเมือง Catania, Siracusa และเมืองทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะ จะเรียกว่า Arancino ค่ะ ส่วนเมืองทางส่วนอื่นจะเรียกว่า Arancina ต่างกันแค่เพศของคำ ซึ่งไม่มีนัยสำคัญอะไร (ถึงเขียนมาให้ สองแบบ)




Panelle – ปาแนลเล
Panelle คือมันบดปรุงรสที่หั่นออกมา
Cannoli – คานโนลิ
เป็นขนมหวานขึ้นชื่อของเกาะ หน้าตาคล้ายโอโจ้ที่อ้วนขึ้น 10 เท่า แต่ความยาวเท่าเดิม ด้านในจะสอดไส้ครีมเน้นๆ ไม่มีกลวง ไส้จะมีสองชนิดคือ ไส้ครีม (จะสีครีม) กับไส้ Ricotta (ไส้สีขาว) ถ้าเราชอบแบบ Ricotta ค่ะ มันจะไม่ค่อยมันเท่าครีม แป้งด้านนอกเป็นแป้งทอดกรอบแข็งโรยน้ำตาล แข็งหน่อย รสชาติหวานๆ แต่ไม่หวานมาก อร่อยทีเดียว ปกติเราไม่ค่อยกินของหวาน แต่อันนี้เรากินได้ แนะนำให้ลองกิน เป็นเมนู A Must ที่ใครมา Sicily แล้วไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึงค่ะ

Cannoli คืออันที่เป็นเหมือนหลอดอ้วนๆ มีไส้ขาวๆ (Ricotta) ตรงกลางค่ะ หัวท้ายโป๊ะด้วยพิชตาชิโอ้บด
Torroncini
คล้ายๆ ขนมถั่วตัดบ้านเราค่ะ แต่ส่วนที่เป็นน้ำตาลของเค้าจะมีสีขาว เข้าใจว่าเป็นน้ำตาลผสมกับครีมจะนิ่มๆ ไม่แข็ง ถั่วที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นอัลมอนต์ กับ พิชตาชิโอ้ อร่อยดีมีขายหลายขนาด บางแบบก็เคลือบช็อคโกแลต หรือเป็นสีช็อคโกแลตก็มีค่ะ
Croccantini
อันนี้เหมือนถั่วตัดบ้านเราเลยค่ะ 555 แต่บางกว่า และถั่วที่ใช้เป็นอัลมอนต์ฝานบางๆ กับพิชตาชิโอ้ คือส่วนตัวเราไม่ชอบถั่วลิสง เราเลยชอบ croccantini มากๆ เพราะถั่วเค้าอร่อยกว่า น้ำตาลที่เคลือบก็ผสมน้ำผึ้งด้วย ทำให้รสชาติดีมาก พอแผ่นบางกว่าก็ไม่แข็งมาก กินง่าย แถมขนาดที่ทำมาขายก็กำลังพอดีกิน 1 ครั้งแล้วไม่เลี่ยนไป
La campagna – ชนบท
คนอิตาลีเป็นคนที่ชอบการสังสรรค์ และเข้าสังคม ครอบครัวเราเค้าจะนัดกันออกไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ด้วยกันบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะไปในบ้านในชนบทของเพื่อนสักคน (เค้าเรียกว่า Campagna – คาม ปาน ย่า) แล้วทำอาหารกินร่วมกัน คล้ายๆ ไปปิคนิคของบ้านเราแต่ที่นี่เค้าจะจัดเต็มกันมากกว่า คือจะร่วมกันซื้อของสดมาปิ้งย่าง ทำพาสต้า หั่นผัก ทำสลัดร่วมกัน ทำเสร็จก็ กิน กิน กิน กิน ส่วนตัวเราว่าดีตรงที่ว่า ผู้ใหญ่ก็สังสรรค์กันไป เด็กๆ ก็จะได้มีเพื่อนเล่น (จากลูกๆ ของแต่ละครอบครัว) แล้วก็ได้ใกล้ชิดธรรมชาติเพราะเป็นบ้านในชนบท
รอบนี้เราก็มาสังสรรค์ที่ campagna ในวัดถัดมาจากที่เรามาถึง เพราะยังเป็นวันหยุดอยู่ วันนี้ Danila น้องเราบอกว่า เราต้องกินให้เยอะๆๆๆๆๆ เพราะวันนี้ทุกคนจะกินกันไม่ต่างกับหมูตัวนึง (Si mangia come maiale) ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ทำให้เราได้กินอะไรหลายๆ อย่างที่เราอยากกิน หนึ่งในนั้นคือ Artichokes หรือ carciofi (คาร์-ชิอ้อ-ฟิ) ในภาษาอิตาเลียน ถ้าใครเคยไปเวียดนามน่าจะเคยชิมชา Artichoke มาบ้าง คือต้นเดียวกันแต่ที่นี่เค้าเอามาโรยเกลือ และน้ำมันมะกอก แล้วเผา เค้าจะกินแกนกลางของดอกที่นิ่มๆ อร่อยมาก ชอบบบบ

Artichoke ที่โดนหั่นแล้ว ทุบให้หลวมใส่เกลือ และน้ำมัน รอเอาไปเผา
อาหารเรียกน้ำย่อยของอิตาลีก็ง่ายๆ เป็น แฮม ซาลามี่ แล้วก็ไส้กรอกแบบอิตาลี (ไม่ใช่แบบไส้กรอก CP นะ) นอกจากนั้นก็จะเป็นชีสแบบต่างๆ หั่นเป็นชิ้นๆ กินกันเลย กินกับขนมปัง ใส่แองโชวี่ เห็ด มะกอก ตามใจชอบ
Sommatino – เมืองซอมมาติโน่
Campagna ที่เราไปอยู่ที่ Sommatino ในจังหวัด Caltanissetta (บ้านเราอยู่ อ.เมือง ว่างั้นค่ะ นี่เรามาที่อีกอำเภอนึง) ซึ่งอยู่ห่างพอสมควร นั่งรถมา 30 นาทีก็จะถึง เป็นบ้านของ Angelo ที่เป็นเพื่อนของ Patrizia หลังจากที่เรากินอาหารกันอย่างอิ่มหนำสำราญมาก เราก็ขับรถไปในตัวเมือง Sommatino เลยจากเมืองไปเล็กน้อย จะมีคอกม้าอยู่ วันนี้เค้าจะมาขี่ม้ากันค่ะ
ที่คอกม้ามีม้าประมาณ 10 กว่าตัวได้ แต่ละตัวสวยๆ ทั้งนั้น หลังจากเดินดูคอกม้ากันไม่นาน เค้าก็แสดงม้าให้พวกเราดู ม้าที่นี่ฉลาดมากๆ มีลูกม้าด้วยทุกคนชื่นชอบกันสุดๆ จากนั้นเค้าก็ถามว่ามีใครอยากจะขี่บ้าง ตอนก่อนออกจากบ้านเราดันพูดกับ Patrizia ไว้ว่าเราอยากขี่ค่ะ เลยได้ลองคนแรกเลย 555 จริงๆ คิดว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เราขี่ม้า ในไทยตอนเด็กๆ เราก็เคยขี่ม้าตามชายหาดแบบที่มีคนจูง แต่คิดว่าม้าไม่ตัวใหญ่เท่าม้าที่นี่ ม้าที่นี่แค่หลังก็แทบจะสูงกว่าเราแล้ว ตอนขึ้นลำบากมากเพราะขึ้นผิดท่าด้วยแต่ก็ขึ้นได้สำเร็จ เค้าปล่อยให้เราขี่ม้าเองด้วยตื่นเต้นมากๆ สนุกมากๆ ม้าบังคับง่ายกว่าที่คิด เราขี่วน 4-5 รอบได้ เพราะตอนแรกเราหยุดม้าไม่เป็นค่ะ ยังดีนะที่คิดคำว่า stop ในภาษาอิตาลีออก จากนั้นก็มีคนอื่นลองขึ้นขี่บ้าง ทุกคนชอบกันทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าขี่กัน 555 Patrizia ก็ลองขี่ดูเหมือนกัน เค้าก็บอกว่าชอบมาก ส่วน Danila น้องสาวเราเค้าขี้กลัวเลยไปขี่ลูกม้าแทน 5555 (ขำๆ ค่ะ)
ขี่ม้ากันเสร็จ เราก็กลับ Campagna ค่ะ กินกันต่อจนมืด แล้วก็กลับบ้าน
La lingua Italiana – ภาษาอิตาลี
วันแรกที่เรามาถึง เราพูดอิตาลีได้แบบเด็กอนุบาลมาก แถมฟังแทบจะไม่ออกเลย ภาษาอิตาลีคืนครูไปเยอะแล้ว แม้ว่าเราจะพยายามฟังเพลงอิตาลี แล้วก็เคยลงคอร์สเรียนที่จุฬาไปรอบนึง เมื่อ 3-4 ปีก่อน วันที่ไป Campagna เราก็ยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่องมากเท่าไหร่ เลยแทบไม่ได้พูดอะไรกับใครเลย ได้แต่พยายาฟังคนอื่นเค้าพูดกัน เผื่อมันจะเข้าหัวบ้าง กว่าจะพอรื้อฟื้นได้พอจะพูดได้บ้างก็เข้าวันที่ 3 ค่ะ เหมือนพอเราฟังมากๆ เข้า ภาษาที่เคยลืมมันก็กลับมาเอง พอวันที่ 4 ที่ 5 ได้เจอเพื่อนๆ ก็คุยมากขึ้นภาษามันก็กลับมาเอง ต้องขอบคุณ Patrizia และ Danila ที่ช่วยเราตลอด เวลาพูดกับเราเค้าจะค่อยๆ พูด และตั้งใจฟังเราพูดตลอด บางทีก็ช่วยอธิบายเรื่องที่คุยกันอยู่ให้เราเข้าใจด้วย ซึ่งช่วยเรามากๆ Patrizia บอกว่า ถ้าเรามาอยู่สักเดือนนึงเราคงพูดได้เหมือนเดิมแน่ๆ เสียดายที่เราอยู่ได้แค่สัปดาห์เดียว
พาร์ทนี้ขอจบแค่นี้ก่อนละกันค่ะ ยังนึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไรเพิ่มเติมอีก พาร์ทหน้ามาดูกันว่าใน Sicily มีที่ไหนน่าไปบ้าง เห็นเป็นแค่เกาะแบบนี้ แต่ที่เที่ยวเยอะมากจริงๆ ค่ะ