ล่องเรือเที่ยวกรุง
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา เราได้รับโอกาสดีๆ ไปนั่งเรือล่องแม่น้ำ คู คลองในกรุงเทพฯ ร่วมกับทีม Rangy Paysbuy และ Budnow ค่ะ เราต้องขอบคุณน้องพริ้ว ที่ชวนเรามารวมแจมทริปนี้ด้วย โดยมีแก๊ง YWC ไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือ น้องพริ้ว น้องยูกิ น้องแทนนี่ และเราค่ะ วันนี้เค้าจะพาเราไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี และอีกที่ที่ไปกันคือ บ้านศิลปิน ที่ตลาดน้ำคลองบางหลวง ภายในเวลา 2 ชั่วโมงค่ะ
พวกเรานัดกันเวลา 14:30 ที่ท่าเรือของร้านเวนิสวานิช เป็นท่าเรือที่อยู่ข้างๆ กับท่าพระอาทิตย์ค่ะ โดยเรือจะออกเวลา 15:00 น. วันนั้นด้วยความที่เราเลือกเส้นทางผิด ทำให้เราสายไป 10 นาที แต่ก็ยังทันอยู่ เรือที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันมีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน เราเป็นลำที่ 3 เลยค่ะ เพราะรอน้องแทนนี่ เด็กในแก๊ง YWC เหมือนกัน ที่ขับรถมาเกือบจะไม่ทัน เรียกว่า วิ่งลงเรือกันวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว
วันนี้เราเอากล้องตัวใหม่ sony a6000 ที่พึ่งซื้อมาออกทริปด้วยเป็นครั้งแรก ก็ถือว่าได้โอกาสลองกล้องไปด้วยเลย วันนี้ท้องฟ้ามีเมฆประปราย แสงแดดไม่แรงมาก น่าจะถ่ายรูปได้ไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี
ที่แรกที่เราไปคือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี อยู่ในคลองบางกอกน้อย (คลองข้างรพ.ศิริราช) ซึ่งเป็นอู่เก็บเรือที่ใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค ที่สำคัญจำนวน 8 ลำด้วยกัน ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือครุฑเหินเห็จ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรืออสุรวายุภักษ์ และเรือเอกไชยเหินหาว
รอบๆ อู่เก็บเรือ มีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของกระบวนพยุหยาตราชลมารค และจัดแสดงอุปกรณ์ประดับของเรือ เช่น ผ้าหลังคาเรือ ผ้าหน้าจั่วและผ้าปีกนก ผ้าหน้าโขน ชุดของฝีพาย และแบบจำลองการแห่เรือพระราชพิธี ให้เราได้อ่านกัน หัวเรือบางลำเป็นหัวเรือที่ทำขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเรือบางลำได้รับความเสียหายจากสงคราม เช่น เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ส่วนตัวนอกจากเราจะชอบหัวเรือของทุกๆ ลำแล้ว เรายังชอบลายที่แกะไว้ที่ข้างเรือด้วยค่ะ ทั้งลายพญานาค ลายครุฑยุดนาค ลายไทยต่างๆ สวยงามมากจริงๆ
วันนี้ได้มาดูเรือแบบใกล้ๆ ได้เก็บภาพถ่ายสวยๆ ก็แอบเสียดายนิดๆ ค่ะ ที่เราไม่เคยได้ดูกระบวนพยุหยาตราชลมารค ทั้งๆ ที่พึ่งมีไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. แต่จะปิดในช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่และวันหยุดสงกรานต์ค่ะ โดยมีค่าเข้าคนละ 20 บาท (คนไทย) และหากใครพกกล้องไปถ่ายรูปด้วย ต้องเสียเงินคนละ 100 บาทค่ะ (รวมตั๋วค่าเข้าแล้ว)
ชมความงามสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
หลังจากที่เราเสร็จภารกิจจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี เราก็กลับมาล่องแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง คราวนี้เรือของเราเป็นเรือนำลำแรก วันนี้คลื่นค่อนข้างใหญ่ พอที่จะทำให้มีน้ำสาดกระเซ็นเข้ามาในลำเรือ ลำบากพวกเราต้องเอากล้องเก็บไว้ให้ไกลๆ ไม่ก็เก็บไปเลยค่ะ จุดนี้เราใช้มือถือถ่ายรูปรัวๆ อย่างเดียวเลย กลัวกล้องใหม่จะมีอันเป็นไปตั้งแต่ทริปแรก
ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เราจะเห็นวิววัดพระแก้ว และวัดโพธิ์ได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ ด้วยอากาศและแสงในตอนนี้กำลังถ่ายได้สวยเลยทีเดียว ส่วนทางขวามือเราก็จะเห็นหอประชุมกองทัพเรือ ที่เป็นตึกโบราณสวยงามไปอีกสไตล์นึง สำหรับใครที่ไม่เคยล่องแม่น้ำดูวิว เราแนะนำให้ล่องทั้งตอนกลางวัน และตอนกลางคืนค่ะ ได้วิวสวยกันไปคนละแบบ คนละอารมณ์จริงๆ
บ้านศิลปิน @ ตลาดน้ำบางคลองหลวง
หลังจากนั่งเรือที่ขับฝ่าคลื่นลม และน้ำที่สาดกระเซ็นเข้ามา พวกเราได้แต่หัวโยกตัวลอยราวนั่งสปีดโบ๊ทมาสักพักนึง ผ่านวัดปากน้ำ เรามาลงเรือกันที่ท่าวัดคูหาสวรรค์ เพื่อมาคุยกับคนที่เค้าดูแลบ้านศิลปิน ที่อยู่ที่ตลาดน้ำบางคลองหลวงค่ะ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมคลองแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยามาแต่เก่าก่อน แต่ด้วยความที่มันอ้อมมาก เค้าเลยขุดคลองลัดทางน้ำเอา จนกระแสน้ำเปลี่ยนทิศเกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาแบบในปัจจุบัน และแม่น้ำเดิมกลับมาขนาดเล็กลงเหลือเป็นเพียงแค่คลอง
อาจเป็นเพราะว่าพวกเรามาช่วงวันหยุดยาว ตลาดน้ำแห่งนี้จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก ระหว่างทางที่มาที่นี่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ ที่ดูไม่วุ่นวายแบบอัมพวา แต่ให้ความรู้สึก สงบ ร่มรื่น เย็นสบาย แทน ระหว่างทางที่เราเดินไปบ้านศิลปิน ก็จะผ่านร้านกาแฟสุดฮิป และ บรรดาร้านที่ขายของชำ และร้านขายอาหารปลาสีสันสดใสมากกกก จนเราก็แอบกลัวว่า เฮ้ยยย สีขนาดนี้ปลามันจะไม่เป็นมะเร็งเหรอ?!! แต่เค้าบอกว่าเป็นสีผสมอาหารค่ะ ไม่เป็นอันตราย
ปลาบริเวณนี้ทั้งเยอะ ทั้งตัวใหญ่(มาก) พอมีใครโยนอาหารลงไปในน้ำ แป๊ปเดียวก็จะมีน้องปลาแย่งกันขึ้นมากินอาหารกันอย่างดุเดือด พวกเราเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปปลา และบรรยากาศริมน้ำที่น่ารื่นรมณ์ ก่อนที่จะเยี่ยมชมบ้านศิลปิน ที่เป็นบ้านไม้ตั้งอยู่ริมน้ำสุดทางเดินของตลาดแห่งนี้
บ้านศิลปินเป็นบ้านไม้อายุร่วม 100 ปี ทรงมะนิลา มีลักษณะเป็นรูปตัวแอล สร้างล้อมรอบเจดีย์เก่าแก่ ที่แสดงอาณาเขตของวัดกำแพง ซึ่งเป็นวัดโบราณในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์อาไว้ บริเวณกลางบ้าน ในบริเวณชั้น 1 มีการจัดแสดงหุ่นละครเล็ก พื้นที่ทำงานศิลปะ มุมขายของที่ระลึก และร้านชากาแฟที่ราคาไม่แพง แต่รสชาติดี ส่วนบนบ้านชั้น 2 เป็นแกลอรี่ขนาดเล็ก รวบรวมภาพวาดจากศิลปินหลายๆ ท่านเอาไว้ ซึ่งหากใครสนใจ ก็สามารถซื้อกลับไปได้เช่นกัน
หุ่นละครเล็ก “คณะคำนาย” ที่อยู่ที่นี่ แยกตัวมาจากคณะหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ ตั้งแต่ช่วงที่สวนลุมไนท์บาร์ซ่าเดิมที่ถูกปิดไป เมื่อปี 2553 และมาตั้งคณะอยู่ตรงบ้านศิลปินแห่งนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ศิลปะการเชิดหุ่นให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น ส่วนตัวเราเคยไปดูการแสดงที่สวนลุมไนท์บาซ่าก่อนที่จะปิดมาครั้งนึงค่ะ ซึ่งเราชอบมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการแสดงศิลปะหุ่นละครเล็กที่ประเทศอื่นแล้ว (ไม่ขอกล่าวว่าประเทศไหนนะคะ) เราว่าของไทยเรามีความวิจิตรงดตามตั้งแต่ตัวตุ๊กตา ไปจนถึงรูปแบบการนำเสนอ การแสดง การเชิดหุ่นที่มีความพร้อมเพรียงกัน เป็นการแสดงที่น่าประทับใจมากๆ วันนี้น่าเสียดายที่พวกเรามามาไม่ทันรอบการแสดง เลยไม่มีโอกาสได้ชม T^T
เราพึ่งทราบว่า หุ่นละครเล็กที่ใช้แสดงแต่ละตัวราคาไม่ใช่น้อยๆ เป็นหลักหลายหมื่นบาท และหลายๆ จุดต้องทำขึ้นมาด้วยมือ พวกลวดลายทองคำที่เห็น คือทองคำเปลวที่ต้องอาศัยฝีมือในการทำมาก
ใครสนใจสามารถเข้าไปชมการแสดงได้ฟรี ในรูปแบบของการแสดงเปิดหมวก ที่ใครจะตอบแทนด้วยสิ่งใดก็แล้วแต่จะให้ จะเป็นสิ่งของ หรือเงินก็ได้ โดยเปิดการแสดงในวันพุธถึงวันอาทิตย์ เวลาบ่าย 2 โมง โดยวันจันทร์ และอังคารจะไม่มีการแสดง เนื่องจากต้องซ่อมแซมหุ่น และซักเสื้อผ้า
ด้วยความเก่าแก่ของตัวบ้าน เร็วๆ นี้เค้ามีแผนที่จะซ่อมแซมบ้านไม้หลังนี้ ซึ่งก็มีข่าวลือออกว่า คณะหุ่นละครเล็กนี้กำลังจะปิดตัวลง แต่ขอย้ำว่า แค่ซ่อมแซมชั่วคราวเท่านั้นนะคะ ไม่ได้ปิดกิจการตามข่าวที่ลืออกมากันแต่อย่างใด โดยจะปิดประมาณ 15-30 วัน เพื่อซ่อมแซมบริเวณโดยรอบบ้าน ระหว่างนี้ก็จะไปจัดแสดงสัญจร “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” วันเสาร์ และอาทิตย์ เวลา 11:30 น. แทน และในระหว่างที่ซ่อมแซมบ้าน หากใครสนใจอยากเห็นวิธีการซ่อมบ้านไม้ ที่ไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ ก็มาเยี่ยมชมได้ค่ะ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ Facebook Fanpage ของบ้านศิลปิน ได้เลยค่ะ
ชมแสงอาทิตย์ยามเย็นกลางเจ้าพระยา
เรามาปิดวันดีๆ แบบนี้ด้วยวิวริมฝั่งแม้น้ำเจ้าพระยากับแสงยามเย็นสีส้ม ที่ปกติเราไม่ค่อยได้เห็นวิวนี้เท่าไหร่ค่ะ สวยงามจริงๆ วันนี้ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี Rangy Paysbuy และ Budnow อีกครั้ง ที่ทำให้เราได้มีประสบการณ์ดีๆ กับการเดินทางเที่ยวด้วยเรือ ที่ได้บรรยากาศที่แตกต่างจาการเที่ยวปกติมากๆ ทั้งสนุก ทั้งชุ่มช่ำ กันตลอดการเดินทาง 2 ชั่วโมง