อ่านหนังสือ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะทำให้ได้ในปีนี้ (และมีแววว่าจะทำได้ด้วย ^^) จริงๆเริ่มจะรู้ตัวตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้วว่า เราอ่านหนังสือต่อปีได้น้อยมาก ไม่ถึง 10 เล่ม (ไม่รวมการ์ตูนรวมเล่ม และ นิตยสารนะคะ) ปีนี้เลยตั้งเป้าหมายใหม่ อยู่ที่อ่านประมาณสัปดาห์ละเล่ม เอารวมๆทั้งปี ถ้าได้สัก 30-40 เล่ม ก็ได้แล้ว จะเป็นหนังสืออะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ การ์ตูน และนิตยสาร แต่ถ้าเป็นการ์ตูนสอนให้ความรู้ก็นับนะคะ อิอิ

ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันหรือเปล่า เราเป็นคนที่แทบจะไม่เคยอ่านหนังสือทีละเล่ม สงสัยเป็นเพราะเป็นคนขี้เบื่อ เลยชอบอ่านหลายๆเล่มไปพร้อมๆกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ก่อนหน้านี้อ่านหนังสือไม่ค่อยจะจบสักเล่ม แม้แต่ตอนนี้ก็จะอ่านอย่างน้อย 2 เล่มควบกันไปเรื่อยๆ เช่นอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ คู่กับนิยายสักเล่ม หรือสองเล่มเสมอ เคยคิดแปลกใจตัวเองว่าอ่านรู้เรื่องได้ยังไงเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก็แก้โดยการที่ไม่จับหนังสือพร้อมกันเกิน 2 หรือ 3 เล่ม ต้องอ่านให้จบก่อนแล้วค่อยจับเล่มใหม่ที่สนใจ

ทีนี้ไหนๆเราก็ตั้งใจอ่านหนังสือแล้วแล้ว เพื่อเพิ่มเติมให้เป้าหมายนี้มันดูดีมีประโยชน์อีกนิดหน่อย เลยคิดว่าน่าจะมารีวิวสั้นๆ ของแต่ละเล่มว่าเป็นยังไงบ้าง เผื่อว่าจะมีใครหยิบอ่านแล้วอยากหนังสือเล่มเดียวไปอ่านบ้าง ก็จะเป็นปลื้มไม่น้อยค่ะ 555

 

เล่มที่ 1 > เจาะลึกกลศึกสามก๊ก : 42 ยุทธวิธีรุกรับทุกสถานการณ์

เค้าวาดเป็นการ์ตูนอ่านง่ายมาก สนุกด้วย เล่มนี้เค้ายกกลศึกต่างๆในเรื่องสามก๊กมาวาดเป็นการ์ตูน และอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เรียงตามลำดับเรื่องสามก๊กเลย เหมือนได้อ่านสามก๊กฉบับย่อๆ แถมบางอย่าง เราก็เก็บเอามาใช้บ้างก็ยังได้ 555  ส่วนตัวก็ไม่เคยอ่านสามก๊กฉบับเต็มจบค่ะ แต่คิดว่าต่อให้อ่านฉบับเต็มจบแล้ว ก็คงไม่สามารถเข้าใจกลยุทธต่างๆได้ดี เท่าที่อ่านแบบย่อยมาแล้วจากเล่มนี้ค่ะ

 

เล่มที่ 2 > บุคคลบันดาลใจ ยิ่งใหญ่ด้วยความดี

เป็นหนังสือที่รวมประวัติชีวิตของคนที่เคยยิ่งใหญ่ ด้วยการยึดมั่นในหลักคุณงามความดี เล่มนี้ยืมเพื่อนมาอ่าน ถ้าจะไม่ผิดจะมีประมาณ 6-7 คนที่เค้ายกมา ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน หรือมีเชื้อสายของจีน หนังสือเล่มนี้ดีมาก แนะนำให้อ่าน เพราะให้แง่คิดอะไรเราเยอะมากค่ะ
อ่านแล้วจะรู้ว่า การจะยิ่งใหญ่อย่างยั่งยืนได้ ต้องมีความดีเป็นพืนฐานก่อน เหมือนชื่อหนังสือเลยค่ะ

 

เล่มที่ 3 > 36 Business Stratagems : ตำราพิชัยยุทธ์ซุนวู สุดยอดแม่ไม้ธุรกิจ

ยังคงเกาะติดเซ็ทการ์ตูนประวัติศาสตร์จีนเหมือนเล่มแรกสุด เพราะว่ายืมเพื่อนมาอ่านค่ะ อ่านแล้วก็อ่านให้ครบๆเซ็ทไปเลย เล่มนี้แอบอ่านนานเพราะไม่ค่อยมีหัวด้านนี้เท่าไหร่ แต่ได้ความรู้แล้วก็สนุกดี เค้ายกตัวอย่างบริษัทต่างๆ กับการใช้กลยุทธ์ต่างๆของซูนวู มาวาดเป็นการ์ตูนให้อ่านง่ายมากขึ้น และน่าเบื่อน้อยลง

 

เล่มที่ 4 > Art of War: ตำราพิชัยยุทธ์ของซุนวู

เล่มนี้เค้าจะเล่าถึงประวัติของซุนวูคร่าวๆตอนต้นเรื่อง จากนั้นก็จะอธิบายกลยุทธต่างๆในตำราพิชัยยุทธ์ซุนวู พร้อมยกตัวอย่างจากการรบต่างๆในประวัติศาสตร์จีน ใครที่ดูหนังจีน แล้วเคยได้ยินเรื่องตำราพิชัยยุทธ อยากรู้ว่าเป็นยังไง แต่ไม่อยากอ่านอะไรที่มันดูยากๆ แนะนำให้หาเล่มนี้มาอ่านค่ะ เพราะพอเค้าแปลงมาเป็นการ์ตูนแล้วอ่านง่ายขึ้นมาก สนุกสนานดี แถมได้ความรู้อีกด้วย

 

เล่มที่ 5 > The Principle of Beautiful web design

ประเดิมหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกของปี เสียเวลาอ่านอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ เล่มนี้เราอ่านเป็น ebook ซื้อมาตอนปลายปีที่แล้ว Sitepoint เค้ามีลดราคาปลายปี เหลือราวๆ 7$ ไม่แพงเลย เราอ่านกับ kindle for android ใน a88 จอเล็กอ่านยากไปหน่อย แต่ก็โอเคอยู่ค่ะ ข้อดีของการอ่าน Ebook ก็คือ เราไม่เป็นความหนาของหนังสือ ที่มักจะทำให้จิตเราคิดเอาเองว่าไม่น่าจะอ่านจบ แต่พอเป็น Ebook แล้วก็อ่านเพลินๆไปเรื่อยๆ แล้วมันก็จบเองค่ะ สงสัยว่าอีกไม่นานคงต้องหา tablet มาประจำกายสักตัวแล้วล่ะ

เนื้อหาในเล่มจะเกี่ยวกับ webdesign ทั้งหมด ตั้งแต่เรื่อง layout, color, typography, picture ครบทีเดียว โดยเค้าเปรียบเทียบเนื้อหาต่างๆ ไปกับตัวอย่างการทำเว็บจริงๆเว็บหนึ่ง ทำให้เราเห็นกระบวนการออกแบบเว็บแบบที่ฝรั่งเค้าทำกันด้วย ได้ความรู้ Design Process เพิ่มขึ้นหลายอย่างเลยค่ะ

 

เล่มที่ 6 > มองมุมกลับ ลับคมความคิด

ที่สนใจมาอ่านเล่มนี้ เพราะว่าไปอ่านรีวิวใน thumbsup.in.th แล้วเห็นว่าน่าสนใจดี เลยหามาอ่านบ้าง ซื้อมาเสร็จก็อ่านจบในวันนั้นเลย -*- รู้สึกอ่านจบเร็วไปหน่อย
หนังสือเล่มนี้ดีทีเดียว แต่สไตล์ผู้เขียน อ่านแล้วให้ความรู้สึกเรื่อยๆมาก จนอ่านจบไปแรกๆรู้สึกว่าไม่ค่อยได้อะไร ต้องมาคิดทบทวนอีกรอบ เลยรู้ว่าได้อะไรเยอะเหมือนกัน อาจเป็นเพราะอ่านจบเร็วไปด้วยมั้ง ความคิดยังไม่ทันจะตกผลึก เหอๆ

ตัวเนื้อหา ก็พูดถึงแนวคิด + ความเป็นจริงในการทำงาน และการสร้างสรรค์ผลงาน เล่มนี้ให้อะไรที่เราเคยเจอมาแล้ว แต่ไม่เคยเก็บมาคิด หลายข้อเหมือนกัน เช่นอย่าเอางานอดิเรกมาเป็นงานประจำ เพราะจุดนั้น ต่อความสนุกจะหมดไป ความสุขจะกลายเป็นนรกแทน เหอๆ ใครสนใจลองหาอ่านดู พึ่งออกใหม่เลยเล่มนี้ ของสำนักพิมพ์ welearn

 

เล่มที่ 7 > Smashing Book1

เล่มนี้อ่านข้ามปีค่ะ 555 อ่านตั้งแต่ปีก่อน แต่ก็ดองทิ้งไว้หลายเดือน กว่าจะกลับมาอ่านใหม่ เสียเวลาไปนานโขเลยค่ะกว่าจะอ่านจนจบ (เพราะโรคจิตเห็นความหนาของหนังสือแล้วท้อไปพักนึงด้วยค่ะ 55) Smashing book เป็นหนังสือที่รวมเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บ โดย Smashing Magazine เนื้อหาข้างในมีประโยชน์มากสำหรับคนทำเว็บ โดยจะเน้นที่การดีไซน์เว็บ และ UI เป็นอีกเล่มที่แนะนำให้อ่าน ใครอยากได้ตอนนี้สามารถสั่งซื้อได้จาก Smashing Magazine ค่ะ ตอนนี้เค้าออกเล่ม 2 มาแล้วด้วย เล่มที่ 2 ตอนนี้พึ่งจะเริ่มอ่านไปได้ 2 บทเองค่ะ

 

เล่มที่ 8 > 4.50 รถไฟสายมรณะ

หันมาอ่านนิยายบ้าง พักสมองหลังจากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมา 2 เล่มแล้ว คิดว่าสำหรับเล่มนี้ คนที่ชอบอ่านนิยายฆาตรกรรม ก็คงรู้จักนักเขียนที่ชื่อ อกาธา คริสตี้ ดี เค้าเป็นเจ้าแม่นิยายฆาตรกรรมคนหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับเล่มนี้เป็นการสืบสวนคดีของมิสมาเปิ้ล ซึ่งตามสไตล์ของป้าแกก็จะเรื่อยๆ ดูไม่ค่อยเหมือนการสืบสวนเท่าไหร่ แต่ก็จบได้น่าทึ่งอยู่แทบทุกครั้ง สำหรับเล่มนี้เกี่ยวกับ เพื่อนของมิสมาเปิ้ลบังเอิญไปเห็นการฆาตรกรรม ขณะนั่งรถไฟไปเมือง แพดดิงตั้น แต่พอไปแจ้งนายสถานี ก็ไม่ได้เรื่องอะไร แถมศพก็หายไปอีก มิสมาเปิ้ลเลยต้องยื่นมือเข้ามาสืบสวนหาความจริงค่ะ เล่มนี้ถึงจะไม่ได้สนุกถึงขั้นต้องอดหลับอดนานมาอ่านให้จบ แต่ก็สนุกแบบเรื่อยๆค่ะ ไม่น่าเบื่อ ไม่หวือหวา

 

เล่มที่ 9 > คำสารภาพของ มารี อังตัวแนตต์

เล่มนี้สนุกมากค่ะ จัดเป็นหนังสือที่วางไม่ลงเลยทีเดียว ยิ่งหลังๆเนื้อเรื่องยิ่งเข้มข้นขึ้นมากด้วยแล้ว อดหลับอดนอนอ่านกันเลยทีเดียว เนื้อเรื่องก็เป็นเรื่องราวชีวิตของ มารี อังตัวแนตต์ เจ้าหญิงออสเตรีย ที่ได้ขึ้นเป็น พระราชินีแห่งประเทศฝรั่งเศสที่ได้ชื่อว่า ชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดองค์หนึ่ง คนที่ทั้งเคยถูกยกย่อง และถูกเคียดแค้นจากชาวฝรั่งเศส สุดท้ายเธอถูกตัดหัวด้วยกิโยตินแบบฝรั่งเศส ใครที่พอรู้ประวัติศาสตร์ยุโรปบ้าง ก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์

รูปแบบการเขียนของเล่มนี้ คนแต่งเขียนให้เหมือนตัว มารี อังตัวแนตต์ เขียนบันทึกชีวิตของตัวเองขึ้นมาเองค่ะ เล่าถึงความรู้สึกในชั่วขณะชีวิตของเธอ ซึ่งสนุกมากๆค่ะ อ่านจบแล้วอยากไปเที่ยวฝรั่งเศสสักครั้งเลยทีเดียว แรกๆที่อ่านไม่ค่อยจะคล่องคำราชาศัพท์มากนัก แต่อ่านๆไปก็จะชินไปเองค่ะ คนแปลให้คำได้ดีมากด้วย รู้สึกไม่ติดขัดเวลาอ่านเลย

 

เล่มที่ 10 > พระราชินีนาถวิคตอเรีย

เล่มนี้อ่านต่อจากเล่มข้างบน เพราะว่ายังชินกับราชาศัพท์อยู่ เลยน่าจะดีกว่าที่จะอ่านต่อกันไปเลย อีกอย่างก็คือเคยได้ยินมานานแล้ว ควีนวิคตอเรียองค์นี้ ทรงพระปรีชาสามารถมาก เพราะเป็นควีนที่ทำให้ประเทศอังกฤษในสมัยนั้น เป็นดินแดนที่พระอาทิตย์ไม่มีวันตกดิน หรือก็คือ มีอาณานิคมไปทั่วโลกนั่นเองค่ะ เล่มนี้เขียนโดย ว.ณประมวญมารค โดยผู้เขียนบอกว่า เขียนจากเกร็ดความรู้จากพงศาวดาร และหนังสือต่างๆ ไม่ได้แต่งเติมเนื้อเรื่องแต่อย่างใด อาจจะมีเพิ่มบทสนธนาไปบ้างเพื่อให้หนังสือไม่ดูเป็นหนังสือสารคดีจนเกินไป

เล่มนี้ไม่สนุกเท่าเรื่อง คำสารภาพของ มารี อังตัวเนตต์ แต่ก็ไม่น่าเบื่อ ทำให้รู้เรื่องราวความเป็นไปในราชวงศ์อังกฤษในสมัยนั้นเป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัว ครอบครัว ความรัก และหน้าที่การงาน ของควีนวิคตอเรีย ตั้งแต่ได้ครองราชย์ จนสิ้นประชมน์ รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัชกาลที่ 5 กับราชวงศ์อังกฤษก็มีอยู่ในเล่มนี้ด้วย ทำให้หนังสือเล่มนี้ออกจะเป็นแนวหนังสือชีวประวัติมากกว่าหนังสือนิยาย

 

จบแล้วสำหรับการรีวิวสั้นๆของแต่ละเล่ม จริงๆแล้ว ผ่านมา 4 เดือนได้แค่ 10 เล่มถือว่าไม่ตรงตามเป้าเท่าไหร่ เพราะเสียเวลาไปอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอยู่นานพอสมควรเลยค่ะ 555 ตอนนี้ที่อ่านค้างอยู่ก็มี แฮรี่ พอตเตอร์เล่ม 7 อ่านได้ราวๆครึ่งเล่มแล้ว เล่มนี้ออกมานานแล้ว แต่ไม่ยอมอ่านเพราะต้องทำใจก่อน เนื่องจากผิดหวังจากเล่มก่อนๆมาหลายเล่ม พอหนังฉาย ก็เลยคิดว่าต้องอ่านสักทีล่ะ ส่วนอีกเล่มก็คือ Smashing Book2 ตอนนี้อ่านไปได้แล้ว 2 บท ยังเหลืออีกเยอะค่ะ 555 ท่าจะใช้เวลาไม่น้อยทีเดียว

ใครที่เคยอ่านเล่มไหน ชอบไม่ชอบยังไง หรืออ่านรีวิวแล้ว ลองไปหยิบมาอ่านบ้าง ก็บอกกันบ้างนะคะ จริงๆเมื่อไม่นานมานี้อ่านสัมภาษณ์ของนักเขียนท่านนึง เค้าพูดได้ดีมากเลยว่า ถ้าเราอ่านหนังสือแล้วเราไม่คุยกับหนังสือเลย การอ่านหนังสือนั้นก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรค่ะ เพราะสักแต่อ่านๆให้มันจบ จริงๆแล้ว แม้แต่นิยายก็มีข้อคิดให้เราคิดและคุยกับหนังสือได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอให้สนุกกับการอ่านหนังสือค่ะ ^^

• agatha christie
• comics
• novels
• sitepoint
• smashing book
• sunzi
• the three kingdoms